บทนำ (วรรค 2-11) ของ ปัญญาจารย์ 1

วรรค 2

ปัญญาจารย์กล่าวว่า อนิจจัง อนิจจังอนิจจัง อนิจจัง สารพัดอนิจจัง[17]

คัมภีร์ไบเบิลอังกฤษเล็กซ์แฮมเรียกวรรคนี้ว่าเป็น "คติพจน์" (motto) ของปัญญาจารย์[18] คติพจน์นี้ปรากฏอีกครั้งในช่วงท้ายของคำสอนของปัญญาจารย์ในปัญญาจารย์ 12:8[3] "อนิจจัง" ซึ่งเป็นคำสำคัญของหนังสือปัญญาจารย์[3] แปลมาจากคำภาษาฮีบรูว่า הבל, hebel[19] ซึ่งมีความหมายว่า "ความไม่มีสาระ" หรือ "ความไร้แก่นสาร" ในทางรูปธรรมใช้หมายถึง "ควัน", "ไอน้ำ", หรือ "ลมหายใจ" และในเชิงเปรียบเทียบใช้หมายถึง 'สิ่งที่หายวับไปหรือว่องไว' (มีความแตกต่างกันขึ้นกับบริบท)[20] อาจแปลได้ว่า 'ความไร้เหตุผล, ความคับข้องใจ, ความไร้ประโยชน์, ความไร้สาระ'[21] คำนี้ปรากฏ 5 ครั้งในวรรคนี้วรรคเดียวและปรากฏอีก 29 ครั้งในหนังสือปัญญาจารย์[20]

"อนิจจัง อนิจจัง" มาจากความในภาษาฮีบรู: הבל הבלים (habel habalim)[19]

วรรค 3

มนุษย์ได้ประโยชน์อะไรจากการตรากตรำทุกอย่างของเขาซึ่งเขาตรากตรำภายใต้ดวงอาทิตย์นั้น[22]

คำถามเชิงโวหารนี้เป็นไปตามคำกล่าวเกี่ยวกับ "อนิจจัง" และเป็นไปตามการพรรรณนาถึงโลกที่ 'ไม่ยอมรับความพยายามของมนุษย์'[3]

วรรค 9

วรรค 9 มีคำกล่าวที่เป็นที่รู้จักอย่างดีว่า "ไม่มีสิ่งใดใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์"

วรรค 11

ไม่มีการจดจำถึงคนสมัยก่อนและไม่มีการจดจำถึงคนสมัยหลังที่จะเกิดมาโดยคนรุ่นต่อมา[25]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

แหล่งที่มา

WikiPedia: ปัญญาจารย์ 1 http://jewishencyclopedia.com/articles/5415-eccles... https://archive.org/details/TheBiblicalQumranScrol... https://archive.org/details/TheBiblicalQumranScrol... https://archive.org/details/halleysbiblehand00henr https://thewaytoyahuweh.com/dead-sea-scrolls/gener... https://books.google.com/books?id=TILXeWJ2eNAC https://books.google.com/books?id=uveHQgAACAAJ https://books.google.com/books?id=ZJdVkgEACAAJ https://books.google.com/books?id=FSNKSBObCYwC http://www.biblica.com/es-us/la-biblia/biblia-en-l...